“ต้มยำทะเล” สุดยอดอาหารที่ใครหลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะรสชาติที่เข้มข้นเผ็ดร้อนของเครื่องต้มยำ ที่ผสมผสานกับวัตถุดิบที่ได้จากทะเลทำให้กลิ่นหอมของอาหารทะเลและรสชาติของต้มยำเข้ากันได้อย่างลงตัว ความลับของเมนูต้มยำทะเลคือ การเลือกสรรวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ เครื่องเทศจะต้องให้กลิ่นหอมได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญอาหารทะเลจะต้องสดใหม่ไม่มีกลิ่นคาวมากจนเกินไป และเคล็ดลับความหอมของเครื่องต้มยำอีกอย่างก็คือ น้ำพริกเผา จะต้องมีกลิ่นหอมของพริกเผาเป็นตัวนำมากที่สุด ถึงจะสามารถหอมควบคู่ไปกับอาหารทะเลได้อย่างลงตัว สูตรลับความอร่อยของต้มยำทะเลขึ้นอยู่กับอาหารทะเลที่เลือกใช้ เช่น กุ้งจะต้องเลือกเป็นกุ้งแม่น้ำที่ให้ความคาวน้อยที่สุด หรือปลาหมึกนั้นจะต้องเลือกปลาหมึกขาวเพราะผ่านการลอกหนังมาแล้วทำให้ความคาวลดน้อยลง หากจะเลือกใช้วัตถุดิบอื่นๆก็ต้องคำนึงถึงกลิ่นเป็นหลัก นอกจากเรื่องกลิ่นหอมของวัตถุดิบแล้วรสชาติก็สำคัญอย่างมาก เพราะต้มยำจะต้องให้รสชาติดังนี้คือ เค็ม เปรี้ยว มัน หวาน เผ็ด ตามลำดับ แม้หลายคนจะชอบรสชาติของต้มยำที่แตกต่างกันแต่การทำให้ต้มยำรสชาติครบทุกรสดังกล่าวก็จะทำให้หลายๆคนติดใจในความอร่อย ยิ่งถ้าได้ข้าวสวยร้อนๆมารับประทานอาหาร ยิ่งเพิ่มอรรถรสและความอร่อยของเมนูนี้ หากใครได้ลองชิมรสชาติที่เผ็ดซะใจและอร่อยแซ็บอย่างนี้แล้ว รับรองวางช้อนไม่ลงกันอย่างแน่นอน

            “ต้มยำกุ้ง” สุดยอดเมนูต้มยำน้ำข้น ที่ใช้มันกุ้งในการทำน้ำต้มยำน้ำข้น ด้วยกุ้งตัวโตๆ อุดมไปด้วยมันกุ้งแสนอร่อย นำมาต้มกับเครื่องเคียงต้มยำ ได้รสชาติเข้มข้นอร่อยอย่าบอกใคร นอกจากรสชาติจะเข้มข้นถึงใจแล้ว ยังมีความหอมจากเครื่องเคียงต้มยำที่จะให้กลิ่นหอมชวนหลงไหลน่าทาน อย่างตะไคร้ และใบมะกรูด เคล็ดลับในการทำต้มยำให้หอมอร่อย ก็คือการเลือกใช้ใบมะกรูดที่แก่ เนื่องจากใบมะกรูดที่แก่จะให้ความหอมมากกว่าใบมะกรูดอ่อน นอกจากเคล็ดลับความหอมของน้ำต้มยำแล้ว ต้มยำน้ำข้นจะอร่อยได้ก็ต่อเมื่อการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างกุ้งที่สดๆ เพราะกุ้งที่สดใหม่จะให้มันกุ้งที่เข้มข้น และอร่อยมากกว่ามันกุ้งที่ได้จากกุ้งเก่าเก็บค้างคืน และอีกหนึ่งความลับของการทำน้ำต้มยำให้เผ็ด และเปรี้ยวจัดจ้านถึงใจ ก็คือการเลือกใช้น้ำมะขามเปียกแทนน้ำมะนาว ซึ่งนอกจากน้ำมะขามเปียกจะให้ความเปรี้ยวแล้ว ยังได้ความหอมกลับมาอีกด้วย ส่วนการเพิ่มรสชาติความจัดจ้านก็คือ เมื่อน้ำต้มยำเดือดพร้อมจัดเสิร์ฟแล้ว ให้หั่นพริกสดลงใส่ เพราะความเผ็ดจากพริกสามารถย่อยสลายได้ในความร้อน วิธีนี้จะทำให้สามารถได้รับความเผ็ดจากพริกได้มากกว่า การใส่พริกลงไปพร้อมเครื่องเคียงต้มยำ

            “แกงคั่วเห็ดเผาะ” สุดยอดแกงลาวที่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้านถึงใจ นอกจากรสชาติจะจัดจ้านแล้ว ยังเป็นแกงที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ด้วยความหอมที่ได้จากยอดชะอมสด ซึ่งมีกลิ่นหอมที่แปลกแตกต่างออกไปจากผักที่ให้ความหอมชนิดอื่นๆ เนื่องจากความเป็น เมนูอาหารอีสาน หลายท่านอาจจะไม่คุ้นหูกับชื่อแกงประเภทนี้ แกงคั่วเกิดจากการนำพริกแกงไปคั่วกับหัวกะทิให้มีกลิ่นหอม แล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงจนได้รสชาติอาหารที่พอใจ จากนั้นรอให้หัวกะทิเดือดแล้วจึงใส่เห็ดเผาะลงไปผัดต่อ ผัดจนกว่าเห็ดเผาะจะผสมคลุกเคล้าเข้ากับหัวกะทิ จึงเติมหางกะทิเข้าไป ต้มจนกว่าน้ำแกงจะเดือดก็สามารถนำมารับประมานได้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ แกงคั่วเห็ดเผาะ มีกลิ่นหอมน่าทานก็คือ ในขณะที่น้ำแกงยังร้อนอยู่ให้ทิ้งยอดชะอมสดลงไปในน้ำแกง เพื่อให้กลิ่นของยอดชะอมติดกับอาหารที่เราทำ ความพิเศษของแกงคั่วเห็ดเผาะก็คือ ในหนึ่งปีจะมีแกงประเภทนี้ให้ทานเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น เนื่องจากเห็ดเผาะเป็นเห็ดที่เกิดตามลักษณะของดินฟ้าอากาศ ช่วงไหนที่มีฝนตกหัวปีและท้ายปี พร้อมกับปรากฏการณ์มีลูกเห็บตก แปลว่าในปีนั้นๆ จะมีเห็ดเผาะทานมากกว่าทุกปี เพราะความชื่นของสภาพอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เห็ดเผาะเกิดมากกว่าปกติ